คู่ค้าสำคัญและคู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูงจะได้รับการตรวจสอบการดำเนินงานและประเมินความเสี่ยงในระดับลึกเป็นประจำทุกปี โดยใช้แนวทางการตรวจสอบการดำเนินงานของ เอ็กโก กรุ๊ป (EGCO Group Audit protocol) ซึ่งถูกจัดทำขึ้นโดยอ้างอิงจากกรอบการทำงานระหว่างประเทศ เช่น ISO9001 ISO14001 ISO 45001 SA8000 และ Sedex Members Ethical Trade Audit (SMETA) เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องกับจรรยาบรรณคู่ค้า กฎหมาย และมาตรการต่าง ๆ รวมถึงข้อกำหนดด้านความยั่งยืนที่เกี่ยวข้อง อาทิ การกำกับดูแลกิจการ จริยธรรมการดำเนินธุรกิจ สิทธิมนุษยชน การปฏิบัติต่อแรงงาน อาชีวอนามัยและความปลอดภัย ความรับผิดชอบต่อสังคม การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความหลากหลายทางชีวภาพ การจัดหาและองค์ความรู้ด้านการจัดหาอย่างยั่งยืน โดยขอความร่วมมือ ให้คู่ค้าจัดทำแผนการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเพื่อปรับปรุงแก้ไข พัฒนาระบบ และแนวทางในการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนต่อไป โดยเอ็กโก กรุ๊ป จะติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนจนแล้วเสร็จ

คุณภาพสินค้า และการบริการ การบริหารจัดการด้านนวัตกรรม

การกำกับดูแลกิจการที่ดี การป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล การปฏิบัติตามกฎหมาย

ระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม โครงการด้านสิ่งแวดล้อม การป้องกันการละเมิดการผิดต่อข้อกำหนดสิ่งแวดล้อม

ประเด็นด้านสังคม ได้แก่การปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านแรงงาน และสิทธิมนุษยชน การปฏิบัติอย่างเท่าเทียม การพัฒนาบุคลากร

ระบบบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การป้องกันอุบัติเหตุและรายงานข้อมูล

การวิเคราะห์คู่ค้า

เอ็กโก กรุ๊ปวิเคราะห์คู่ค้าสำคัญโดยพิจารณาจากเกณฑ์ดังต่อไปนี้

  • เป็นคู่ค้าที่มีการซื้อขายสินค้าและบริการอย่างสม่ำเสมอ (Active Supplier) ในปีที่มีการประเมิน
  • เป็นคู่ค้าที่ส่งมอบสินค้าและบริการที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ (Critical Component) และ/หรือคู่ค้าที่มีจำนวนน้อยราย และไม่สามารถหาทดแทนได้ (Non-substitutable)
  • การใช้จ่ายที่สูง กล่าวคือ ร้อยละ 80 ของยอดการซื้อขายทั้งปี ในปีที่ทำการประเมิน

สำหรับการระบุคู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูง (High-risk Supplier) เอ็กโก กรุ๊ป ใช้เกณฑ์ปริมาณการใช้จ่าย และพิจารณาผลการประเมินความเสี่ยงของคู่ค้าในประเด็นด้านความยั่งยืนแยกเป็นแต่ละประเภท อาทิ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และภาพลักษณ์องค์กร

  • ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ อาทิ คุณภาพและราคาของสินค้าและบริการ การค้าผูกขาด การจัดหาอย่างยั่งยืน
  • ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การใช้น้ำและการจัดการน้ำเสีย การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงาน ผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ มลพิษทางอากาศ
  • ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อาทิ ความปลอดภัยของกระบวนการผลิต สถิติอุบัติเหตุ การเตรียมความพร้อมและตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน
  • ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง อาทิ การทุจริต การหลีกเลี่ยงภาษี สิทธิมนุษยชน การปฏิบัติต่อพนักงาน

คู่ค้าที่เป็นคู่ค้าที่สำคัญและคู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูง โดยมีปริมาณธุรกรรมเกิน 5 ล้านบาท และได้รับคะแนนประเมินมากกว่า 50% มีสิทธิขึ้นทะเบียนเป็น 'รายชื่อผู้ขายที่ได้รับอนุมัติ' ของ เอ็กโก กรุ๊ป คู่ค้าที่มีคะแนนการประเมินต่ำกว่า 50% จะต้องจัดทำแผนปฏิบัติการแก้ไขก่อนที่จะมาเป็นคู่ค้าของ เอ็กโก กรุ๊ป

ภาคผนวกแนบท้ายเงื่อนไขการจ้าง: ข้อกำหนดทั่วไปสำหรับขอบเขตของสัญญาที่มีมูลค่าสูง

ตัวอย่างการคัดกรองและการประเมินความเสี่ยงของคู่ค้า

ประเทศ กิจกรรม รายละเอียดกิจกรรม ประเด็นด้านความยั่งยืน
ระดับประเทศ ระดับอุตสาหกรรม ระดับสินค้ารายโภคภัณฑ์ ประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน
ประเทศไทย พลังงานลม ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้ลูกค้า

ประเด็นเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม

มลพิษทางสิ่งแวดล้อม: มลพิษทางสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยเป็นผลมาจากการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว การเติบโตของอุตสาหกรรม และการทำเกษตรกรรม ซึ่งส่งผลกรระทบต่อคุณภาพอากาศ น้ำ และเสียง

ความหลากหลายทางชีวภาพ: ความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทยตกอยู่ในความเสี่ยงจากหลายปัจจัย เช่น การล่าสัตว์ผิดกฎหมาย การตัดไม้ทำลายป่า มลพิษ การท่องเที่ยว การขนส่ง เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อความหลากหลายของระบบนิเวศ

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: ประเทศไทยเผชิญกับความเสี่ยงอย่างมีนัยยะสำคัญจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งฝนตกหนัก น้ำท่วม ภัยแล้ง และการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล โดยเฉพาะพื้นชายฝั่งของประเทศที่จะได้รับผลกระทบ

ประเด็นเกี่ยวข้องกับสังคม

ผู้ลี้ภัย ผู้แสวงหาที่ลี้ภัย และแรงงานข้ามชาติ: ความล้มเหลวในการลงนามอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ และการขาดการจัดกลุ่มระหว่างผู้แสวงหาที่ลี้ภัยและผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทำให้หวาดกลัวจากการถูกจับกุมหรือการเนรเทศอยู่ตลอดเวลา

ความรุนแรงด้านสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้: ความรุนแรงด้านสิทธิมนุษยชนในชายแดนใต้เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง องค์กร Human Rights Watch บันทึกกรณีการทรมานชาวมุสลิมเชื้อสายมาเลย์โดยตำรวจและทหารขณะถูกควบคุมตัว

ประเด็นเกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ: ความต้องการไฟฟ้าและพลังงานขึ้นอยู่กับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การตัดสินใจลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ต้องใช้ข้อมูลทางเศรษฐกิจในการพิจารณาความเป็นไปได้ของโครงการเพื่อให้มั่นใจว่า เอ็กโก กรุ๊ป ลงทุนในโครงการที่มีความสำคัญ

ประเด็นเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: สภาพอากาศที่รุนแรงทำให้วัตถุดิบของพลังงานหมุนเวียนได้รับผลกระทบ ส่งผลให้เกิดความล่าช้า วัตถุดิบขาดแคลน และราคาผันผวน ซึ่งผลกระทบต่อการเข้าถึงและความสามารถในการซื้อได้

มลพิษทางสิ่งแวดล้อม: การติดตั้งโครงสร้างพลังงานหมุนเวียนอาจเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ที่ดินและรบกวนการใช้ชีวิตของสัตว์ป่า ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีบางประเภทอาจต้องการใช้น้ำในปริมาณสูง

ประเด็นเกี่ยวข้องกับสังคม

อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน: การทำงานในพื้นที่อับอากาศ การปฏิบัติการเกี่ยวกับอุปกรณ์อุตสาหกรรม และการเคลื่อนที่ของเครื่องจักร จัดเป็นการทำงานที่มีความอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บในรูปแบบต่าง ๆ ได้

ชุมชน: โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนสามารถเป็นจุดกำเนิดของเหตุรำคาญทางสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัยต่อผู้คนในท้องถิ่นได้

ปัญหาแรงงาน: อุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านแรงงานอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความต้องการแรงงานเกี่ยวกับงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (green job) สูงกว่าความพร้อมของแรงงานที่มีทักษะตลอดห่วงโซ่อุปทาน

ความรุนแรงด้านสิทธิมนุษยชน: กรณีการจ่ายค่าจ้างต่ำ ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน หรือมาตรฐานสุขภาพและความปลอดภัยที่ไม่ดี ทั้งในกระบวนการผลิตและตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน

ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์: ระบบการทำงานพลังงานหมุนเวียนเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น การเก็บข้อมูลและการควบคุมการทำงานของกังหันลมผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เป็นต้น ทำให้เกิดการหยุดชะงักในการดำเนินงาน อุปกรณ์เสียหาย การละเมิดข้อมูลและระบบไฟฟ้าไม่เสถียร

ประเด็นเกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ:

ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ: ต้นทุนพลังงานทีเพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อคู่ค้าและผู้รับเหมาอย่างสูง ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในกระบวนการผลิตส่วนประกอบที่สำคัญของพลังงานหมุนเวียน

ความเสี่ยงทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม: การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนอย่างรวดเร็งอาจทำให้เทคโนโลยีที่มีอยู่กลายเป็นล้าสมัย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและความสามารถในการทำกำไรของโครงการ พร้อมทั้งเกิดความท้าทายด้านความเชื่อถือและอายุการใช้งานอีกด้วย

ความเสี่ยงทางการเมือง นโยบาย และกฎหมาย: โครงการพลังงานหมุนเวียนต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่แตกต่างกันตามเขตอำนาจของสถานที่นั้น ๆ ซึ่งมักมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง ทำให้เกิดความไม่แน่นอนสำหรับผู้พัฒนา นักลงทุนและผู้ประกันภัย

ห่วงโซ่อุปทาน: การก่อสร้างที่ล่าช้าเนื่องจากต้นทุนและปัญหาแรงงานอาจทำให้เกิดข้อพิพาทได้ นอกจากนี้ วัตถุดิบบางส่วนสำหรับโครงการพลังงานหมุนเวียนนั้นมีจำกัด ดังนั้นห่วงโซ่อุปทานจึงมีความเสี่ยงท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบและความไม่เสถียรทางการเมือง

ประเด็นเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม

สัตว์ป่าและถิ่นอาศัย: สัตว์ป่าได้รับความเสี่ยงสูงจากกังหันลม โดยเฉพาะนกและค้างคาว เนื่องจากการชนกันที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศและการรบกวนถิ่นที่อยู่อาศัย

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: การผลิตพลังงานจากลมยังสามารถได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบลมเนื่องจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ความเสี่ยงของการผลิตทองแดง: ทองแดงซึ่งเป็นตัวนำไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าพลังงานลมเพื่อผลิตพลังงาน ซึ่งจะปล่อยก๊าซซัลเฟอร์และก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ระหว่างกระบวนการผลิต ซึ่งมีส่วนทำให้ฝนเป็นกรดได้

ของเสีย: กังหันลมและวัสดุก่อสร้างอาจถูกกำจัดโดยการเผาหรือการฝังกลบ แม้ว่าบางส่วนอาจนำมาแปรใช้ใหม่ (recycle) แต่ก็ยังคงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ประเด็นเกี่ยวข้องกับสังคม

อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน:

  • สภาพแวดล้อมในการทำงาน: เนื่องจากโรงงานพลังงานลมตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีลมพัดอย่า สม่ำเสมอ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงให้กับพนักงานที่อาจจะพลัดตกลงสู่ด้านล่างได้เนื่องจากความแรงของลม
  • ความสูงของกังหันลม: โดยความสูงทำให้เกิดความเสี่ยงในการพลัดตกและเสี่ยงอันตรายต่อพนักงานระหว่างการก่อสร้างและการบำรุงรักษาที่มักจะต้องใช้บันไดปีนในระดับความสูงหลายร้อยฟุต

ชุมชน: ปัญหาด้านเสียงและการสั่นสะเทือนจากกังหันลมอาจส่งผลต่อชุมชนที่อยู่รอบ ๆ โรงงานที่มีการดำเนินงาน

ความรุนแรงด้านสิทธิมนุษยชน: กรณีการจ่ายค่าจ้างต่ำ ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน หรือมาตรฐานสุขภาพและความปลอดภัยที่ไม่ดี ทั้งในกระบวนการผลิตและตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน

ประเด็นเกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ:

ความเสี่ยงทางการเมือง นโยบาย และกฎหมาย: โครงการพลังงานลมเผชิญกับความท้าทายด้านกฎหมายในเขตอำนาจต่าง ๆ และนโยบายที่หลากหลาย ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิดบ่อยครั้งและมีความซับซ้อน

ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ: ต้นทุนพลังงานทีเพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อคู่ค้าและผู้รับเหมาอย่างสูง ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในกระบวนการผลิตส่วนประกอบที่สำคัญในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานลม

1. สิทธิที่จะมีชีวิต (Rights to life)

17. สิทธิในการเป็นเจ้าของทรัพย์สิน (Rights to own property)

21.สิทธิในเสรีภาพในการรวมกันเป็นสมาคม เพื่อปกป้องประโยชน์ของตน (Rights to freedom of association)

24. สิทธิในการทำงาน (Rights to work)

27. สิทธิที่จะได้รับการดำรงชีวิตที่ดี (ที่อยู่อาศัย อาหาร น้ำ และสุขอนามัย (Rights to an adequate standard of living (housing, food, water, and sanitation))

28. สิทธิด้านสุขภาพ (Rights to health)

31. สิทธิเสรีภาพในการกำหนดวิถีชีวิตตนเองและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ (Rights to self-determination and natural resources)

35. สิทธิชนกลุ่มน้อย (Rights of minorities)

ประเทศไทย พลังงาน ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำใช้ในกระบวนการผลิตให้ลูกค้า

ภูมิทัศน์ทางการเมือง: เอ็กโก กรุ๊ป มีการลงทุนในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน และประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอ็กโก กรุ๊ป ตระหนักถึงความสำคัญของความขัดแย้งที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อห่วงโซ่อุปทานในประเทศเหล่านี้ รวมถึงกฎหมายและข้อจำกัดต่าง ๆ ความขัดแย้งระหว่างจีนและไต้หวันได้ทวีความรุนแรงขึ้นจากการกระทำของกองทัพ เช่น การส่งเรือรบและเครื่องบินเพื่อลาดตระเวนดินแดนป้องกันตนเองของไต้หวัน

การควบคุมหรือกักขังโดยพลการ: สถานการณ์ในประเทศไทยต่างจากปีก่อน โดยภาพรวมไม่มีรายงานว่ารัฐบาลหรือตัวแทนกระทำการควบคุมตัว กักขัง หรือสังหารโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ตามยังคงมีการรายงานถึงเหตุการณ์ที่ปะทะระหว่างฝ่ายรัฐบาลและกองกำลังก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้: ประเทศไทยยังเผชิญปัญหาความรุนแรงภายในประเทศอย่างต่อเนื่องในกลุ่มชาติพันธุ์มลายู-มุสลิมแถบจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเหตุโจมตีโดยกองกำลังก่อความไม่สงบก่อให้เกิดความตึงเครียดระหว่างชุมชนชาวมุสลิมเชื้อสายมลายูในท้องถิ่นและชุมชนชาวพุทธ

ผู้ลี้ภัย ผู้แสวงหาที่ลี้ภัย และแรงงานข้ามชาติ: รัฐบาลมีการร่วมงานกับหน่วยงาน United Nations High Commissioner for Refugees (UNHCR) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน และองค์กรด้านมนุษยธรรมอื่นๆ เพื่อให้ความคุ้มครองและช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ผู้ขอลี้ภัย บุคคลไร้สัญชาติ และบุคคลอื่น ๆ ตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด

ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหลัก

เรื่องสุขภาพและความปลอดภัย: องค์กรควรคำนึงถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพและความปลอดภัย และดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดผลกระทบ

การรักษาความปลอดภัย: การรักษาความปลอดภัยควรครอบคลุมถึงกิจกรรมขององค์กรหรือผู้รับเหมาที่ดำเนินการเพื่อปกป้องทรัพย์สินและรับรองความปลอดภัยของพนักงาน จากการที่โรงไฟฟ้าเป็นเป้าหมายในการประท้วงโดยองค์กรที่เกี่ยวข้องกับด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชน

ห่วงโซ่อุปทาน: องค์กรอาจเผชิญกับประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนและความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานในฐานะผู้ซื้อวัตถุดิบ พนักงานจากองค์กรอื่น ๆ หรือผู้รับเหมา ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับแนวทางปฏิบัติที่ไม่ดีหรือความขัดแย้ง

การจัดหาเชื้อเพลิง: การจัดซื้อเชื้อเพลิงมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อ ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ หรือชีวมวล

ผลิตภัณฑ์และบริการหลักอื่น ๆ: นอกจากการจัดซื้อวัสดุแล้ว อุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้ายังใช้ผู้รับเหมาและผู้รับเหมาช่วงในขั้นตอนดำเนินงานต่าง ๆ

ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชุมชน

สุขภาพและความปลอดภัยของชุมชน: โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าชีวมวล หรือพลังงานหมุนเวียนอาจเป็นแหล่งที่มาของความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัย ซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงานและชุมชนท้องถิ่น

สิทธิในทรัพย์สินและการครอบครองที่ดิน: ชุมชนอาจต้องมีการย้ายถิ่นฐานหากมีการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นโรงไฟฟ้า ในกรณีดังกล่าว สิทธิที่เกี่ยวข้องกับชุมชนจะรวมถึงที่ดินที่อยู่อาศัย พื้นที่เกษตรกรรม การเข้าถึงการประมงและการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม ตลอดจนที่ดินสำหรับกิจกรรมของชุมชน

การเข้าถึงทรัพยากร: เนื่องจากการผลิตพลังงานจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก โดยในการผลิตพลังงานต้องใช้น้ำคิดเป็นร้อยละ 15 ของทั่วโลก รวมถึงทรัพยากรอื่น ๆ อีกมากมาย

สุขภาพและความปลอดภัย: สภาพแวดล้อมภายในสถานปฏิบัติงาน โดยเฉพาะสุขภาพและความปลอดภัย

ชุมชน: โรงไฟฟ้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าชีวมวล หรือโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอาจเป็นแหล่งที่มาของความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัย ซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงานและชุมชนท้องถิ่น

ห่วงโซ่อุปทาน: การกำหนดมาตรฐานสำหรับผู้รับเหมา/ผู้รับเหมาช่วงที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดด้านสิทธิมนุษยชน สุขภาพและความปลอดภัย (แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ ฯลฯ)

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรง เช่น พายุเฮอริเคน ความแห้งแล้ง หรือน้ำท่วมส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งสามารถนำไปสู่ความผันผวนของราคาและการขาดแคลนที่อาจเกิดขึ้น ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาและการเปลี่ยนแปลงของตลาด

3. สิทธิที่จะไม่ตกเป็นทาสและแรงงานบังคับ / สิทธิที่บุคคลไม่ควรถูกปฏิบัติเยี่ยงทาส รวมทั้งการบังคับใช้แรงงาน (Rights not to be subjected to slavery, servitude or forced labor)

8. สิทธิในการเข้าถึงการเยียวยาที่มีประสิทธิผล (Rights to access to effective remedies)

15. สิทธิในการคุ้มครองเด็ก / สิทธิในการดูแล ปกป้อง และช่วยเหลือเด็ก (Rights of protection for the child)

21. สิทธิในเสรีภาพในการรวมกันเป็นสมาคม เพื่อปกป้องประโยชน์ของตน (Rights to freedom of association)

24. สิทธิในการทำงาน (Rights to work)

25. สิทธิในการได้รับสภาพเงื่อนไข การทำงานที่เป็นธรรมและน่าพอใจ (Rights to enjoy just and favorable conditions of work including rest and leisure)

26. สิทธิในการก่อตั้ง เข้าร่วมสหภาพแรงงาน และการผนึกกำลังเพื่อปกป้องผลประโยชน์ในการทำงาน (Rights to form trade unions and join the trade unions, and the Rights to strike)

27. สิทธิที่จะได้รับการดำรงชีวิตที่ดี (Rights to an adequate standard of living)

28. สิทธิด้านสุขภาพ (Rights to health)

35. สิทธิชนกลุ่มน้อย (Rights of minorities)