โครงการการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม
โครงการการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคมของเอ็กโก กรุ๊ป ดำเนินไปตามกลยุทธด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ภายใต้กลยุทธ์ “พลังงานเพื่อชีวิต” ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสังคม โดยบูรณาการการยกระดับคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่นเข้ากับการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่ากิจกรรมพัฒนาชุมชนและสังคมในทุกพื้นที่ของเอ็กโก กรุ๊ป ดำเนินไปในทิศทางและมาตรฐานเดียวกัน
การพัฒนาชุมชน
การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียในท้องถิ่น
เอ็กโก กรุ๊ป มุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในท้องถิ่น รวมถึงชุมชน หน่วยงาน องค์กรพัฒนาเอกชน สื่อมวลชน และสมาคมต่างๆ ในทุกพื้นที่ปฏิบัติการอย่างครอบคลุมและโปร่งใส โดยยึดหลักการดำเนินงานตามมาตรฐานสากล เช่น มาตรฐานการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย AA1000 และขั้นตอนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเอ็กโก บริษัทจึงมั่นใจได้ว่าความคิดเห็นของคนในชุมชนท้องถิ่นจะถูกผนวกเข้ามาประกอบการตัดสินใจ และสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว
แนวทางการดำเนินการ
1. การประเมินผลกระทบและการวางแผนร่วมกัน
เอ็กโก กรุ๊ป ดำเนินการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม (ESIA) เพื่อระบุผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชนในท้องถิ่น และติดตามผลทุก 6 เดือน ในปี 2566 บริษัทได้ร่วมมือกับสถาบันพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน (SBDi) เพื่อนำการวางแผนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไปใช้ในสถานที่หลัก 3 แห่ง ความร่วมมือครั้งนี้ได้ทบทวนคู่มือการมีส่วนร่วม พัฒนาเครื่องมือ และกำหนดตัวชี้วัดสำหรับการดำเนินการในปี 2567
2. ช่องทางการสื่อสารกับชุมชนท้องถิ่น
เอ็กโก กรุ๊ปมีส่วนร่วมผ่านช่องทางการสื่อสารทั้งแบบตัวต่อตัวและช่องทางดิจิทัล ผ่านนิตยสารสุขใจ (https://www.egco.com/th/document/sukjai-newsletters) ซึ่งเผยแพร่ทุก ๆ ไตรมาส ตั้งแต่ปี 2559 ในรูปแบบสิ่งพิมพ์ อีเมล์ (CommunityRelation@egco.com and directly to head office via Corp_Com@egco.com) และช่องทาง LINE OA (@sukjaibyegco) จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมการดำเนินงาน นวัตกรรม และความรู้ที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน นอกจากนี้ ผู้แทนจากโรงไฟฟ้ายังมีส่วนร่วมในการประชุมไตรภาคีของชุมชนอยู่เสมอ เช่น ในเขต อ. ขนอม จะมีการจัดประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล แก้ไขข้อกังวล และร่วมกันพัฒนาแผนการปรับปรุงในท้องถิ่น
3. การเพิ่มศักยภาพในการปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย
เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรม เอ็กโก กรุ๊ป ได้ริเริ่มการดำเนินการดังต่อไปนี้
- ในปี 2567 เอ็กโก กรุ๊ป ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนทนากับผู้มีส่วนได้เสียที่โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมกับการเยี่ยมชมสถานที่เพื่อสังเกตกระบวนการผลิตไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังได้จัดการเยี่ยมชมสถานที่ของโรงไฟฟ้าคลองหลวง และโรงไฟฟ้าบ้านโป่งเพื่อต้อนรับตัวแทนชุมชนและสาธิตแนวทางการปฏิบัติงานของเอ็กโก
- ในปี 2567 ได้มีการจัดกิจกรรมภาคสนาม ณ โรงไฟฟ้านำร่องเพื่อฝึกอบรมและสัมมนาเชิงปฏิบัติการด้าน CSR ณ โรงไฟฟ้าพลังงานลมชัยภูมิ โรงไฟฟ้าขนอม โรงไฟฟ้าเอ็กโก โคเจนเนอเรชั่น และโรงไฟฟ้าคลองหลวง เพื่อช่วยยกระดับกลยุทธ์การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโรงไฟฟ้านำร่องทั้ง 4 แห่ง โดยมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก การลดผลกระทบด้านลบ และการลงทุนเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
- โครงการฝึกอบรมสำหรับผู้บริหารท้องถิ่นในปี 2566 เน้นที่การวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เครื่องมือจัดลำดับความสำคัญ และบทเรียนที่ได้รับจากการมีส่วนร่วมภาคสนาม เพื่อให้แน่ใจว่ามีความพร้อมในระดับปฏิบัติการ
- การประชุมเชิงปฏิบัติการภายในชุมชนเกี่ยวกับการคัดแยกขยะ จัดขึ้นร่วมกับ Gepp Sa-ard ให้ความรู้แก่พนักงานและชาวบ้านในชุมชน และแนะนำเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัยเพื่อติดตามแนวทางการจัดการขยะในชุมชน
- โครงการประเมินผลกระทบทางสังคมนำร่อง ซึ่งดำเนินการร่วมกับ Social Value Thailand ได้วัดผลลัพธ์ของโครงการเพื่อชุมชนและสังคม จำนวน 6 โครงการ และฝึกอบรมทีมท้องถิ่นในการรวบรวมข้อมูลและประเมินผลกระทบอย่างครอบคลุม
4. การสำรวจความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและการติดตามผลการดำเนินงาน
เอ็กโก กรุ๊ป ดำเนินการประเมินความพึงพอใจของโรงไฟฟ้า ร้อยละ 100 เป็นประจำทุกปี โดยรวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความคิดเห็นของชุมชนที่มีต่อการมีส่วนร่วมของบริษัท ในปี 2567 เอ็กโก กรุ๊ป ได้กำหนดระดับความพึงพอใจของชุมชนไว้ที่อย่างน้อยร้อยละ 85 ในทุกการดำเนินงาน นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าทั้งหมดได้จัดการประชุมไตรภาคีและกิจกรรมการมีส่วนร่วมที่สอดคล้องกับแผนในพื้นที่และการปรับเปลี่ยนที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาด นอกจากนั้น เอ็กโก กรุ๊ป ยังได้จัดทำแบบสำรวจความพึงพอใจต่อโครงการ CSR ต่าง ๆ เช่น โครงการศูนย์การเรียนรู้ขนอม: สัปดาห์วิทยาศาสตร์ ซึ่งได้รับคะแนนความพึงพอใจจากผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่าร้อยละ 95 พร้อมกันนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังทบทวนความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียในท้องถิ่นอย่างสม่ำเสมอ โดยการติดตามผลตอบรับและความคิดเห็นผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
5. กลไกการร้องเรียนและผลลัพธ์
เอ็กโก กรุ๊ป ตั้งเป้าที่จะไม่มีการร้องเรียนในทุกการดำเนินงาน โดยในปี 2567 บรรลุเป้าหมายนี้ในทุกพื้นที่ที่บริหารจัดการ เอ็กโก กรุ๊ป มีกลไกการร้องเรียนอย่างเป็นทางการ และติดตามปริมาณและสถานะการแก้ไขปัญหาเป็นประจำทุกปี ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการป้องกันความขัดแย้งและการจัดการปัญหาอย่างโปร่งใส
6. การดำเนินการตามมาตรฐานในทุกพื้นที่
มีการนำขั้นตอนและชุดเครื่องมือสำหรับบริหารจัดการการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียไปปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบในโรงไฟฟ้าร้อยละ 100 ของเอ็กโก กรุ๊ป ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงฐานข้อมูลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียประจำปี การวางแผนการมีส่วนร่วมในพื้นที่ การตรวจสอบโครงการเพื่อชุมชนและสังคม และกิจกรรม Open House โดยการใช้หลักการ ISO 26000 ช่วยให้เกิดความสอดคล้องและครอบคลุมอย่างกว้างขวางและเป็นระบบ
ผลงานที่สำคัญ
โรงไฟฟ้าในเครือเอ็กโก กรุ๊ป ดำเนินการประเมินความพึงพอใจตามแผนงานร้อยละ 100
โรงไฟฟ้าในเครือเอ็กโก กรุ๊ป จัดประชุมไตรภาคีและมีส่วนร่วมกับชุมชนในรูปแบบต่างๆ ปรับแผนงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในแต่ละพื้นที่ ร้อยละ 100
โรงไฟฟ้าในเครือเอ็กโก กรุ๊ป ในประเทศไทยนั้นเปิดให้เยี่ยมชมและมีการจัดกิจกรรมวัน Open House ร้อยละ 100
โรงไฟฟ้าในเครือเอ็กโก กรุ๊ป บริหารจัดการการจ้างงาน ผู้รับเหมา และการจัดซื้อจัดจ้างในพื้นที่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเป้าหมาย
ดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนและสังคมตามกลยุทธ์การมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างต่อเนื่อง ร้อยละ 100
โรงไฟฟ้าในเครือเอ็กโก กรุ๊ป ไม่มีเรื่องร้องเรียนใด ๆ จากการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
ระดับความพึงพอใจของการดำเนินงาน ร้อยละ 80
ประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสียและบริษัท
-
ความไว้วางใจของชุมชนต่อโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น:
การสื่อสารที่เปิดกว้าง ช่องทางการร้องเรียนที่น่าเชื่อถือ และการประชุมไตรภาคีที่เปิดโอกาสให้ได้แสดงความคิดเห็น
-
ผลกระทบที่วัดผลได้:
โครงการพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่อง และโครงการทั้งหมดอยู่ภายใต้การประเมินผลกระทบทางสังคม
-
การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย:
การฝึกอบรมและตระหนักรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพของชุมชนท้องถิ่น
-
การมีส่วนร่วมที่ขับเคลื่อนด้วยประสิทธิภาพ:
การตรวจสอบความพึงพอใจประจำปี และการปรับปรุงฐานข้อมูลช่วยให้มั่นใจว่ากลยุทธ์การมีส่วนร่วมของเอ็กโก กรุ๊ป ยังคงทันสมัย และตอบสนองต่อสถานการณ์ปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพ และอ้างอิงข้อมูลเชิงประจักษ์ (data-driven)
การสำรวจชุมชนเพื่อประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของโครงการโรงไฟฟ้าขนอมใหม่
โรงไฟฟ้าขนอมดำเนินการประเมินผลกระทบต่อชุมชนประจำปีเพื่อประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง และรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับโครงการ
การสำรวจในปี 2567 ครอบคลุมประเด็นต่อไปนี้
- ข้อมูลเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือนและชุมชน
- ความพร้อมและการเข้าถึงสาธารณูปโภคและบริการสุขภาพ
- สภาพแวดล้อมและปัญหาปัจจุบันที่ชุมชนเผชิญ
- การรับรู้และความคิดเห็นของชุมชนเกี่ยวกับโครงการ
- สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโครงการในชุมชนท้องถิ่น
- ปรับปรุงการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมต่อชุมชน
- ประเมินระดับความพึงพอใจของชุมชนท้องถิ่นเกี่ยวกับโครงการ
- มีส่วนร่วมโดยตรงกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียผ่านการสำรวจชุมชนท้องถิ่น
โครงการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต
เอ็กโก กรุ๊ป ได้จัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนเพื่อส่งเสริมการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนผ่านแนวทางต่างๆ หนึ่งในนั้น คือ โครงการ “ขนอมโมเดล” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเสริมสร้างศักยภาพชุมชนในด้านต่าง ๆ เช่น การทำเกษตรอินทรีย์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น การปรับปรุงความสามารถในการจัดการทรัพยากรชุมชนและส่งเสริมทักษะอาชีพ นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังได้พัฒนาการสื่อสารที่ชัดเจนกับชุมชนและจัดตั้งช่องทางการมีส่วนร่วมที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังจัดการประชุมไตรภาคีเพื่อผู้มีส่วนได้เสียในท้องถิ่น โดยจัดประชุมเป็นประจำกับหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นและตัวแทนชุมชนเพื่อรับฟังความกังวล ความต้องการ และปัญหาของชุมชน ตลอดจนสำรวจความพึงพอใจและการรับรู้ของชุมชน
ตัวชี้วัดภายในบริษัท
- การบริจาคเงินและสิ่งของ
- การลงทุนในโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต
- การลงทุนในโครงการริเริ่มเชิงพาณิชย์
- ชั่วโมงการทำงานของพนักงานในการปฏิบัติงานด้านชุมชน ณ สถานที่จริงโดยทีมโรงไฟฟ้า และการเข้าร่วมประชุมกลุ่มปฏิบัติงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม
ตัวชี้วัดภายนอกบริษัท
- ชั่วโมงจิตอาสาของพนักงาน
- สมาชิกชุมชนเข้าร่วมการฝึกอบรม
- สมาชิกชุมชนเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาชุมชนรอบโรงไฟฟ้า
- มอบทุนการศึกษาสำหรับการศึกษาสายอาชีพ อุดมศึกษา และนักเรียนที่ขาดแคลนในโรงเรียนรอบโรงไฟฟ้า
- แผนปฏิบัติการเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน
- ความพึงพอใจของชุมชนโดยรวม
- โรงไฟฟ้าในเครือเอ็กโก กรุ๊ป ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศร้อยละ 100 ไม่มีประวัติการร้องเรียนใด ๆ อย่างต่อเนื่อง
- รักษาการจ้างงานในท้องถิ่นและการจัดซื้อจัดจ้างจากแหล่งในท้องถิ่น
- โรงไฟฟ้าในเครือเอ็กโก กรุ๊ป ร้อยละ 100 ดำเนินการพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่อง
ตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน
- ชุมชนได้รับความรู้เพื่อสร้างรายได้และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
- สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างชุมชนและเอ็กโก กรุ๊ป
- ชุมชนสามารถนำแผนปฏิบัติการไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนได้
- ส่งเสริมการจ้างงานและรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชน
- ชุมชนสามารถนำแผนและแนวทางไปพัฒนาชุมชนต่อไปได้ในระยะยาว
ในปี 2567 เอ็กโก กรุ๊ป ได้คัดเลือก 4 โครงการเพื่อรวบรวมข้อมูลและเตรียมความพร้อมด้านผลตอบแทนจากการลงทุนทางสังคม (SROI) ได้แก่ โครงการที่ประเมินแล้วในปี 2566 และโครงการที่ดำเนินการต่อเนื่อง เช่น โครงการศูนย์การเรียนรู้ขนอม (โครงการระยะยาว 25 ปี) รวมถึงโครงการที่ประเมิน SROI ครั้งแรก รวมไปถึงโครงการจ้างงานในท้องถิ่น โครงการทุนการศึกษาสายอาชีพภายใต้โครงการพัฒนาเยาวชน และโครงการระบบนิเวศของ เอ็กโก กรุ๊ป
หมายเหตุ : มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องระดับ ปวช. และ ปวส. ปีละ 25 ทุน จำนวน 5 รุ่น (ระหว่างปี 2560 - 2564 และสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่อเนื่องจนจบการศึกษาในปี 2568)
นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังสนับสนุนการจ้างงานท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการสร้างงานและสร้างรายได้ในชุมชนที่ เอ็กโก กรุ๊ป ไปดำเนินธุรกิจและตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป สนับสนุนการทำโครงการของคนพิการในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ และพื้นที่ที่มีโรงไฟฟ้าตั้งอยู่แทนการจ่ายเงินสมทบกองทุน โดยในปี 2567 บริษัทได้ให้ความช่วยเหลือในการจัดหาโครงการสนับสนุนอาชีพแก่คนพิการที่มีความเดือดร้อนหรือขัดสน จำนวน 3 โครงการ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่บริษัทกำหนด ได้แก่
- โครงการร้านค้าขายสินค้าทางเกษตรในชุมชน
- โครงการเลี้ยงวัว
- โครงการร้านค้าเพื่อน้องดาวน์
การพัฒนาสังคม
ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม จัดนิทรรศการวิทยาศาสตร์ Glow in the Dark ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมวิทย์ พลิกโลก ตอน Climate Tech เด็กเปล่งแสง ลดโลกเดือด”
ศูนย์การเรียนรู้ขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “การเดินทางค้นพบนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์: เสริมพลังเด็กด้วยเทคโนโลยีภูมิอากาศ ลดผลกระทบจากวิกฤตโลกร้อน” เชิญชวนเยาวชนและผู้เข้าร่วมงานมาเรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านพลังงานในอำเภอขนอม ผ่านนิทรรศการพิเศษ “เรืองแสงในที่มืด (Glow in the Dark)” นำเสนอการลดคาร์บอนและไอเดียสร้างแรงบันดาลใจในการลดภาวะโลกร้อน นิทรรศการแบ่งออกเป็น 4 โซนกิจกรรม
-
ขนอมในสวน
-
ขนอมใต้แสงจันทร์
-
ขนอมในที่มืด...เราเรืองแสง
-
ภูมิอากาศเทคโนโลยี
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นตั้งแต่ปี 2567 จนถึงวันเด็กปี 2568
ตัวชี้วัดนำเข้า
- งบประมาณสำหรับการจัดงาน
- จำนวนพนักงานที่เข้าร่วมงาน
ตัวชี้วัดผลงาน
- จำนวนผู้เข้าชมนิทรรศการในปี 2567
- จำนวนโรงเรียนที่จัดทัศนศึกษาดูงานนิทรรศการในปี 2567
- ความพึงพอใจต่อนิทรรศการ
ตัวชี้วัดที่ได้รับจากโครงการ
- สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- สร้างแรงบันดาลใจในการคิดและสร้างสรรค์นวัตกรรม
- ให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแก่เยาวชน
ศูนย์การเรียนรู้ขนอมได้จัดนิทรรศการโดยออกแบบเนื้อหาและการนำเสนอที่เหมาะสมต่อการถ่ายทอดความรู้สู่สาธารณชน นิทรรศการนี้เปิดโอกาสให้เยาวชน ชุมชน และประชาชนทั่วไป ได้ร่วมแบ่งปันความรู้ทางวิทยาศาสตร์ผ่านงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ นับเป็นโอกาสอันดีที่คนรุ่นใหม่จำนวนมากจะได้เรียนรู้เนื้อหาที่มีคุณค่าและได้รับแรงบันดาลใจ


ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม จัดนิทรรศการ Glow in the Dark ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมวิทย์ พลิกโลก ตอน Climate Tech เด็กเปล่งแสง ลดโลกเดือด”
ศูนย์การเรียนรู้ขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “การเดินทางค้นพบนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์: เสริมพลังเด็กด้วยเทคโนโลยีภูมิอากาศ ลดผลกระทบจากวิกฤตโลกร้อน” เชิญชวนเยาวชนและผู้เข้าร่วมงานมาเรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านพลังงานในอำเภอขนอม ผ่านนิทรรศการพิเศษ “เรืองแสงในที่มืด” นำเสนอการลดคาร์บอนและไอเดียสร้างแรงบันดาลใจในการลดภาวะโลกร้อน นิทรรศการแบ่งออกเป็น 4 โซนกิจกรรม
- ขนอมในสวน
- ขนอมใต้แสงจันทร์
- ขนอมในที่มืด...เราเรืองแสง
- ภูมิอากาศเทคโนโลยี
ตัวชี้วัดนำเข้า
- งบประมาณในการจัดงาน
- พนักงานมีส่วนร่วมในการจัดนิทรรศการ
ตัวชี้วัดผลงาน
- จำนวนผู้เข้าชมนิทรรศการในปี พ.ศ. 2567
- จำนวนโรงเรียนที่จัดทัศนศึกษาดูงานนิทรรศการในปี พ.ศ. 2567
- ความพึงพอใจต่อนิทรรศการ
ตัวชี้วัดที่ได้รับจากโครงการ
- สร้างความเข้าใจด้านนวัตกรรมพลังงาน วิทยาศาสตร์ และสังคมแก่เยาวชน
- สร้างความตระหนักรู้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- กระตุ้นการท่องเที่ยวท้องถิ่นและสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น
จัดงานนิทรรศการวิทยาศาสตร์ 2024 ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมวิทย์ พลิกโลก ตอน Climate Tech เด็กเปล่งแสง ลดโลกเดือด” เพื่อส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมการลดคาร์บอนผ่าน 4 โซนกิจกรรม โซนกิจกรรมแบบอินเทอร์แอคทีฟด้วยเทคนิคการเรืองแสงในที่มืด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนและประชาชนทั่วไป รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น


เอ็กโก กรุ๊ป จัดนิทรรศการส่งเสริมความรู้ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ในงาน Creative Nakhon Festival
ศูนย์การเรียนรู้ขนอม เอ็กโก กรุ๊ป ร่วมจัด “Creative Nakhon Festival ครั้งที่ 6” นิทรรศการนำเสนอข้อมูลทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของ “โรงไฟฟ้าลอยน้ำ” รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับพลังงาน การผลิตไฟฟ้า และความกลมกลืนของการอยู่ร่วมกันระหว่างโรงไฟฟ้า ชุมชน และสิ่งแวดล้อม จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 - 28 กรกฎาคม 2567 ณ บวรนคร ต.ย่านท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ตัวชี้วัดนำเข้า
- งบประมาณสำหรับการจัดนิทรรศการ
- ชั่วโมงการทำงานของพนักงานในการจัดนิทรรศการ
ตัวชี้วัดผลงาน
- จำนวนผู้เข้าชมนิทรรศการ
- ความพึงพอใจของผู้เข้าชมนิทรรศการ
ตัวชี้วัดที่ได้รับจากโครงการ
- เสริมสร้างความรู้เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและความตระหนักรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงาน
- ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ร่วมกับชุมชนขนอม
- เอ็กโก กรุ๊ป นำเสนอข้อมูลกระบวนการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ พร้อมประวัติความเป็นมาของ “โรงไฟฟ้าลอยน้ำ”
- ขับเคลื่อนศูนย์การเรียนรู้ให้เป็นแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนของชุมชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช


สิ่งแวดล้อม
“ค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ป่า รุ่นที่ 58” ภายใต้แนวคิด “ปลุกความคิดอนุรักษ์ป่า“
เอ็กโก กรุ๊ป ร่วมกับมูลนิธิไทยรักษ์ป่า และอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จัด “ค่ายเยาวชนเอ็กโก ไทยรักษ์ป่า ครั้งที่ 58” ภายใต้แนวคิดปลุกความคิดอนุรักษ์ป่า เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2567 โดยมีเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศ จำนวน 64 คน เข้าร่วมค่าย เพื่อเรียนรู้ความสำคัญของป่าต้นน้ำ ความหมายของการอนุรักษ์และทรัพยากรธรรมชาติ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เยาวชนสามารถต่อยอดแนวคิดการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงสร้างมิตรภาพ ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นเวลา 7 วัน 6 คืน
ตัวชี้วัดนำเข้า
- งบประมาณสำหรับการจัดกิจกรรม
- จำนวนอาสาสมัครที่เข้าร่วมเป็นหัวหน้าค่าย
- กิจกรรมค่าย 7 วัน
ตัวชี้วัดผลงาน
- ในปี 2567 มีเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรม 64 คน
- ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรม
ตัวชี้วัดที่ได้รับจากโครงการ
- สร้างความตระหนักรู้ให้กับเยาวชนเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศป่าต้นน้ำ
- สร้างเครือข่ายเยาวชนอนุรักษ์ป่าไม้ 58 รุ่น
- สร้างความตระหนักรู้ในการอนุรักษ์ป่าไม้ให้กับเยาวชนกว่า 3,000 คน
กิจกรรมค่ายเยาวชนจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในการอนุรักษ์ ผ่านกิจกรรมและกระบวนการต่าง ๆ ที่ถ่ายทอดความหมายของธรรมชาติ ซึ่งรวมถึงกิจกรรมสร้างสัมพันธ์กลุ่มและประสบการณ์ชีวิตในค่าย เช่น การทำอาหาร การตั้งเต็นท์ และการผูกเปล กิจกรรมอื่นๆ ได้แก่ การเดินศึกษาธรรมชาติเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติผ่านป้ายสื่อความหมายตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน รวมถึงการเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในป่า




โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการป่าชายเลนไทย
โรงไฟฟ้าขนอม บริษัทในเครือเอ็กโก กรุ๊ป ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เพื่อเข้าร่วมโครงการพันธมิตรป่าชายเลนไทย ความร่วมมือนี้ครอบคลุมกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืนใน 3 มิติ ได้แก่
- สิ่งแวดล้อม
- สังคม
- เศรษฐกิจ
พิธีลงนามดังกล่าวจัดขึ้นเนื่องในวันอนุรักษ์ระบบนิเวศป่าชายเลนสากล ประจำปี 2567 เอ็กโก กรุ๊ป มุ่งมั่นที่จะพัฒนาโรงไฟฟ้าขนอมให้เป็นโรงไฟฟ้าต้นแบบที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืน
ตัวชี้วัดนำเข้า
- งบประมาณสำหรับการจัดกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน
ตัวชี้วัดผลงาน
- จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
- ตรวจวัดปริมาณการกักเก็บคาร์บอนจากพื้นที่ป่าชายเลน
ตัวชี้วัดที่ได้รับจากโครงการ
- ฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนและป่าชายฝั่งในพื้นที่
- ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพมีความหลากหลายและสมบูรณ์มากขึ้น
- เสริมสร้างงานและสร้างอาชีพให้กับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีทรัพยากรที่เพียงพอ
- สร้างเครือข่ายเพื่ออนุรักษ์พื้นที่ชายฝั่งและป่าชายเลน
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งร่วมมือกับภาคประชาสังคมและภาคเอกชนในการป้องกัน ติดตาม ประเมินผล และลดการทำลายระบบนิเวศ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง ควบคู่ไปกับการสร้างรายได้ให้กับชุมชนผ่านโครงการริเริ่มที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ


เอ็กโก กรุ๊ป ยังสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการปกป้องและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ ระบบนิเวศ และแหล่งต้นน้ำอันเป็นแหล่งกำเนิดและกักเก็บน้ำธรรมชาติ ตลอดจนแหล่งกำเนิดของสิ่งมีชีวิต ผ่านการดำเนินงานของมูลนิธิไทยรักษ์ป่า โดยได้จัดทำแผนปฏิบัติการตามแนวทางที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และสอดคล้องกับกลยุทธ์ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรอื่นๆ ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา และเพิ่มตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลักที่กำหนดขึ้นสำหรับแต่ละองค์ประกอบในแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้
| ชุมชน (Community) | สังคม (Social) | สิ่งแวดล้อม (Environment) | |
|---|---|---|---|
| โครงการสำคัญ (Key Initiatives) |
โครงการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนรอบโรงไฟฟ้าใน เอ็กโก กรุ๊ป ครอบคลุม 6 ด้านหลักตามกรอบที่กำหนด ดังนี้
|
|
|
| ตัวชี้วัดทางธุรกิจ (Business KPIs) |
|
|
|
| ตัวชี้วัดทางสังคมและสิ่งแวดล้อม (Social and Environmental KPIs) |
|
|
|
นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ร่วมมือดำเนินการพัฒนาสังคมกับองค์กรภายนอกอย่างต่อเนื่อง อาทิ องค์กรชุมชน หน่วยงานภาครัฐทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ โดยเข้าร่วมเป็นสมาชิกและสนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่ายการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนหลัก ๆ ดังนี้





















ในปี 2567 เอ็กโก กรุ๊ป คว้ารางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม ประจำปี 2567 ประเภท ก. งานอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมและชุมชน ระดับดีมาก จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ สะท้อนความสำเร็จของการปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยจากโรงไฟฟ้าเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ในฐานะแหล่งผลิตไฟฟ้าสำคัญของภาคใต้ ตลอดจนการออกแบบและพัฒนาพื้นที่อย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านพลังงาน ทั้งนี้ ภายในศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอมจัดแสดงนิทรรศการถาวร จำนวน 7 โซน ครอบคลุมความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไฟฟ้า กระบวนการผลิตไฟฟ้า การรักษาสิ่งแวดล้อม และการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลของโรงไฟฟ้าและชุมชน โดยมุ่งเน้นให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม ผ่านเทคนิคการนำเสนอที่น่าสนใจและทันสมัย