การดำเนินการด้านความยั่งยืน
โครงการปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ
เพราะเชื่อว่าองค์กรต้องมีจิตสำนึกในการสร้างดุลยภาพอันเหมาะสมระหว่างธุรกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม เอ็กโก กรุ๊ปตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม สังคม และการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน
โรงไฟฟ้าขนอม ในเครือเอ็กโก กรุ๊ป ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งนับเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพและมีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศชายฝั่งทะเลอยู่ในระดับสูง โรงไฟฟ้าขนอม ในเครือเอ็กโก กรุ๊ป จึงดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้า พร้อมกับการดำเนินโครงการเพื่อสังคมและชุมชนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องโดยมุ่งเน้นการปลูกจิตสำนึกเยาวชนและชุมชนให้เกิดความตระหนักและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงสิ่งมีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น เช่น ลิงแสม นกออก และโลมา ตลอดจนส่งเสริมการฟื้นฟูและสร้างสมดุลให้กับระบบนิเวศทางทะเลให้สมบูรณ์อย่างยั่งยืน
การสำรวจทรัพยากรประมงสัตว์น้ำและสัตว์หน้าดินบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวขนอม
เอ็กโก กรุ๊ป สนับสนุนการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าขนอมอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 (ระยะเวลาดำเนินงาน ระหว่างไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ถึงไตรมาสที่ 4 ปี 2568) ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ริเริ่มโครงการสำรวจสัตว์หน้าดินเพื่อบ่งชี้ความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศ ชายหาด บริเวณโรงไฟฟ้าขนอมและพื้นที่ใกล้เคียง
เพื่อประเมินความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์หน้าดิน และความสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมในบริเวณชายฝั่งที่อยู่ติดกับโรงไฟฟ้า โดยประเมินดัชนีความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งการประเมินคุณภาพตะกอนดินและคุณภาพน้ำ เพื่อกำหนดแนวทางการฟื้นฟูถิ่นที่อยู่อาศัยและการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเลในอนาคต ตลอดจนสำรวจทรัพยากรประมงชายฝั่งของอำเภอขนอมเพื่อรวบรวมจัดทำฐานข้อมูลทรัพยากรประมงชายฝั่ง และติดตามสถานการณ์ของทรัพยากรประมงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนการจัดการแบบบูรณาการเชิงระบบนิเวศอย่างยั่งยืน ตลอดจนสนับสนุนให้ประชาชนในชุมชนมีจิตสำนึกหวงแหนทรัพยากรในพื้นที่บ้านเกิด
จากการลงพื้นที่สำรวจสัตว์และสัมภาษณ์ชาวประมงพื้นบ้าน บริเวณรอบอ่าวขนอมตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 ถึงเดือนมิถุนายน 2568 พบว่าช่วงฤดูลมมรสุมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่มีคลื่นสูงและลมพัดแรง ชาวประมงนิยมออกไปทำประมงประเภทอวนกุ้งและอวนปู โดยจากการสำรวจ 2 ครั้ง ครั้งแรกในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นตัวแทนในช่วงฤดูมรสุม และครั้งที่ 2 วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 เป็นตัวแทนช่วงฤดูร้อน พบสัตว์น้ำเศรษฐกิจอย่างน้อย 74 ชนิด ได้แก่ กลุ่มกุ้งทะเล อาทิ กุ้งแชบ๊วย กุ้งขาว กุ้งแม่หวัด กุ้งหลังไข่ ตลอดจนกลุ่มปลา ได้แก่ ปลาทู ปลาจวด ปลาจะละเม็ด เป็นต้น และสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ อาทิ ปูม้า ปูดาว กั้งตั๊กแตนหางจุด ปลากระเบนปากแหลม และผลการสำรวจหน้าดินพบสัตว์บริเวณหาดหน้าโรงไฟฟ้าขนอมและหาดคลองขนอมกว่า 34 ชนิด ในเดือนมกราคม 2568 อาทิ แม่เพรียง กุ้งเต้น ปูลม ปูเสฉวน หอยทับทิม และหอยเสียบ
นอกจากนี้ ยังร่วมกับโรงไฟฟ้าขนอม จัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรทางทะเลและสัตว์หน้าดินบริเวณชายฝั่ง ภายใต้โครงการ “เอ็กโกรักษ์ทะเล” รุ่นที่ 4 เสริมศักยภาพเยาวชน โดยโรงไฟฟ้าขนอม เพื่อการอนุรักษ์ทะเลขนอมอย่างยั่งยืน โดยเปิดโอกาสให้เยาวชน จำนวนประมาณ 100 คน ร่วมเก็บตัวอย่างและจดบันทึกรายการสัตว์หน้าดินที่สำรวจพบบริเวณชายหาดโรงไฟฟ้าขนอม
โครงการสร้างความหลากหลายชายหาดและป่าชายเลน โรงไฟฟ้าขนอม
โรงไฟฟ้าขนอม ในเครือเอ็กโก กรุ๊ป ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี โรงเรียนวัดสิงขร และชุมชนป่าชายเลนอ่าวบ้านดอน จัดกิจกรรมโครงการคืนป่าชายเลนบ้านดอนหาร สานสัมพันธ์ชุมชน โดยดำเนินการปลูกป่าชายเลนมากกว่า 10 ชนิด จำนวนกว่า 700 ต้น ตลอดจนติดตามการเติบโตและประเมินผลอัตราการรอดชีวิตของพันธุ์ไม้ป่าชายเลนที่ปลูกฟื้นฟูในบริเวณพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรม “พี่ ๆ โรงไฟฟ้า พาน้องเก็บขยะ” โดยร่วมกับคุณครูและนักเรียนจากโรงเรียนสุราษฎร์ธานี กิจกรรมเก็บขยะร่วมกับอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กิจกรรม “รวมพลคนไฟฟ้า พัฒนาชายหาด” และกิจกรรมเก็บขยะทะเล ร่วมกับมูลนิธิไทยรักษ์ป่า เพื่อร่วมกันเก็บขยะและพัฒนาพื้นที่ธรรมชาติบริเวณชายหาดอ่าวขนอม
นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าเคซอน และโรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา ประเทศฟิลิปปินส์ ได้ดำเนินโครงการเพื่อดูแลความหลากหลายทางธรรมชาติบริเวณรอบโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยได้ริเริ่มโครงการสำรวจสิ่งมีชีวิต และอนุรักษ์เต่าทะเลซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์
โครงการปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางธรรมชาติ โรงไฟฟ้าเคซอน และโรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา ประเทศฟิลิปปินส์
โรงไฟฟ้าเคซอน และโรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูราดำเนินการสำรวจเพื่อจัดทำบันทึกข้อมูล และช่วยเหลือสัตว์ในบริเวณรอบโรงไฟฟ้าเพื่อรายงานไปยังสำนักงานจัดการความหลากหลายทางชีวภาพของกรมสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ (DENR-BMB) ประเทศฟิลิปปินส์
โดยเฉพาะสัตว์ที่อยู่ในบัญชีแดงของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) และบัญชีรายชื่ออนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ว่าด้วยชนิดพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) โดยมีการสำรวจสิ่งมีชีวิตตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบันกว่า 450 ตัว
โครงการอนุรักษ์เต่าทะเล โรงไฟฟ้าเคซอนและโรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา
โรงไฟฟ้าเคซอนและโรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูราดำเนินโครงการอนุรักษ์เต่าทะเลเนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะถูกกักขังหรือถูกบริโภคโดยมนุษย์ซึ่งใกล้สูญพันธุ์ และอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลทั้งหมด โดยในปีที่ผ่านมา มีเต่าทะเลกว่า 6 ตัวได้รับการช่วยเหลือ และตั้งแต่ปี 2550 มีเต่าทะเลกว่า 85 ตัวได้รับการช่วยเหลือ
โดยหากมีการพบเห็นเต่าทะเลบริเวณจุดรับน้ำของโรงไฟฟ้า การฉีดคลอรีนที่จุดรับน้ำทะเลจะถูกระงับชั่วคราวเพื่อช่วยเหลือเต่าทะเล และมีการติดแท็กก่อนปล่อยกลับสู่อ่าว Lamon ทันที